วันที่ 14 มิถุนายน 2567 เวลา 15.30 น. ที่สถานีรถไฟหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เยี่ยมชมขบวนรถพิเศษเพื่อการท่องเที่ยว SRT Royal Blossom ที่ดำเนินการทดสอบการเดินรถจากสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ไปยังสถานีหัวหิน โดยมีนายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม นางสาวณภัทรา กมลรักษา เลขานุการรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านการขนส่ง นายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก นายอวิรุทธ์ ทองเนตร รองผู้ว่าการ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และคณะ ให้การต้อนรับ
ทั้งนี้ นายกฯ และนายสุรพงษ์ ได้ชิมอาหารริมทางรถไฟ ภายใต้การพัฒนารถไฟทางคู่สายใต้กับของดีวิถีริมรางส่งเสริมการท่องเที่ยว เช่น ข้าวกระทงหนองปลาดุก ของสถานีชุมทางหนองปลาดุก, ตะโก้เสวย ของสถานีหัวหิน และไก่ย่าง ของสถานีคลองบางตาล เป็นต้น
นายเศรษฐา กล่าวว่า รัฐบาลได้กำหนดนโยบาย IGNITE TOURISM THAILAND เพื่อมุ่งผลักดันประเทศไทยสู่เป้าหมายการเป็น Tourism Hub ที่สำคัญของโลก โดยมีกลยุทธ์ในการขับเคลื่อนนโยบาย “เมืองหลักและเมืองน่าเที่ยว” เชื่อมโยงเส้นทางท่องเที่ยวจากเมืองหลักสู่เมืองใกล้เคียงกระจายนักท่องเที่ยวไปสู่ภูมิภาคต่าง ๆ พร้อมกระจายรายได้สู่เมืองน่าเที่ยว โดยเฉพาะการเพิ่มศักยภาพจังหวัดท่องเที่ยว 55 จังหวัด (เมืองน่าเที่ยว) ควบคู่การพัฒนาการเดินทาง และประชาสัมพันธ์ส่งเสริมการท่องเที่ยว เพื่อเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงครึ่งหลังของปี 2567
“การรถไฟฯ มีศักยภาพที่จะพัฒนาขบวนรถไฟ และเพิ่มเส้นทางรถไฟท่องเที่ยวพิเศษ ในเส้นทางต่าง ๆ เช่น การท่องเที่ยวสายวัฒนธรรม และการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ ซึ่งพื้นที่อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีความพร้อมในการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวไทย-ชาวต่างชาติ ให้เพิ่มมากขึ้น และกระจายรายได้ให้กับประชาชนในท้องถิ่นได้อย่างทั่วถึง” นายเศรษฐา กล่าว
นายสุรพงษ์ กล่าวว่า กระทรวงคมนาคม โดยการรถไฟฯ ได้ดำเนินการปรับปรุงตู้โดยสารชนิดนั่งปรับอากาศ Hamanasu ภายใต้ชื่อ SRT Royal Blossom ให้มีความพร้อมสำหรับใช้เป็นขบวนรถไฟท่องเที่ยวเชิงพาณิชย์ ซึ่งดำเนินการต่อเนื่องหลังจากประสบความสำเร็จในการปรับปรุงขบวนรถไฟท่องเที่ยว KIHA 183 ที่สามารถสร้างรายได้ให้กับการรถไฟฯ และสร้างความประทับใจแก่ประชาชน นักท่องเที่ยวเป็นอย่างดี
โดย ขบวนรถไฟท่องเที่ยว SRT Royal Blossom มีกำหนดเริ่มให้บริการท่องเที่ยวอย่างเป็นทางการวันแรก ในวันเสาร์ที่ 17 สิงหาคม 2567 เส้นทางกาญจนบุรี (น้ำตกไทรโยคน้อย) เป็นประจำทุกวันเสาร์ วันอาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ช่วงเดือนสิงหาคม – กันยายน 2567 แบบวันเดย์ทริป (ไปเช้าเย็นกลับ) ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาอัตราค่าโดยสารที่เหมาะสม และในอนาคตกำลังพิจารณาในรูปแบบค้างคืน (2 วัน 1 คืน) ในเส้นทางอื่นเพิ่มเติมด้วย
นายสุรพงษ์ กล่าวว่า คาดการณ์ว่าขบวนรถไฟท่องเที่ยว SRT Royal Blossom จะสร้างรายได้จากการโดยสารได้พอสมควร เนื่องจากเป็นการส่งเสริมภาคการท่องเที่ยวสร้างรายได้ให้กับชุมชนในพื้นที่ใกล้เคียงทางรถไฟ ร้านค้า และร้านอาหาร รวมถึงโรงแรมที่พัก เมื่อมีการจัดทริปรูปแบบค้างคืน เชื่อว่าจะเพิ่มรายได้ให้มากขึ้น สร้างความเข้มแข็งต่อเศรษฐกิจฐานรากได้อย่างยั่งยืน พร้อมทั้งพัฒนาระบบฟีดเดอร์ (Feeder) เพื่อเชื่อมต่อการเดินทางของนักท่องเที่ยวให้ไปยังสถานที่ท่องเที่ยว และที่พัก
การเปิดให้บริการรถไฟท่องเที่ยวขบวนนี้ จะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเสริมศักยภาพการเดินทาง และการท่องเที่ยวภายในประเทศ เปิดประสบการณ์เดินทางใหม่ ๆ ให้กับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติให้เกิดความประทับใจ ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญในการช่วยสร้างงาน สร้างอาชีพ และกระจายรายได้สู่ท้องถิ่นตามนโยบายของรัฐบาล
นายสุรพงษ์ กล่าวต่อว่า ขบวนรถไฟท่องเที่ยว SRT Royal Blossom ภายนอกตู้ ถูกแต่งแต้มสีสันด้วยสีแดงเชอร์รี่คาดทอง ภายนอกตัวรถได้มีการทำสีใหม่ให้เป็นเฉดสีแดงคาดลายสีทอง ด้านหน้า และด้านข้างตัวรถจะมีสัญลักษณ์เป็นโลโก้ STATE RAILWAY OF THAILAND ROYAL BLOSSOM SINCE–2022 คู่กับดอกชัยพฤกษ์ ซึ่งเป็นดอกไม้ประจำรัชกาลที่ 10 ถูกวางบนหน้าปัดนาฬิกาตัวเลขโรมัน และเข็มนาฬิกาชี้ไปที่ตัวเลข 13
สำหรับการตกแต่งภายในตัวรถ ได้ทำการตกแต่งด้วยความพิถีพิถัน โดยทำเบาะหุ้มที่นั่งใหม่เป็นเบาะกำมะหยี่ เปลี่ยนผ้าม่านที่สามารถปรับระดับได้ เปลี่ยนหลอดไฟให้เป็นหลอด LED ส่วนประกอบหลักตกแต่งด้วยไม้สนซีดาร์เป็นเนื้อไม้ที่มีความสวยงาม และทนทานต่อการใช้งาน การติดตั้งบันไดทางขึ้น-ลง ที่ใช้สำหรับรองรับชานชาลาสูง และต่ำ โดยใช้วัสดุจากไม้สัก และขลิบด้วยทองเหลืองแท้ที่พับเก็บได้ ตลอดจนการออกแบบหน้าต่างพร้อมกรอบโลหะสีทองที่มีขนาดความกว้างพิเศษ สามารถชมวิวทิวทัศน์ได้กว้างกว่ารถโดยสารทั่วไป
ขณะที่ระบบไฟฟ้าใช้เครื่องยนต์จากรถ Power Car ในการจ่ายกระแสไฟฟ้า เพื่อช่วยลดมลภาวะทางเสียง และอากาศ โดยมีการติดตั้งเครื่องปรับอากาศ และเครื่องฟอกอากาศทุกตู้ พร้อมติดตั้งปลั๊กไฟแบบมาตรฐาน และ USB Port เพื่อความสะดวกสบายในการใช้งาน และมีห้องสุขาระบบสุญญากาศระบบเดียวกับเครื่องบินด้วย