บุกจับ “3 เอเย่นต์” ค้ายาเสพติดข้ามชาติ หนีซุกรีสอร์ทสงขลา ยึดยาไอซ์ของกลางเกือบ 100 ล้านบาท

บุกจับ “3 เอเย่นต์” ค้ายาเสพติดข้ามชาติ หนีซุกรีสอร์ทสงขลา ยึดยาไอซ์ของกลางเกือบ 100 ล้านบาท

Top news รายงาน เมื่อเวลา 15.30 น. (16มิ.ย.67) พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 พร้อมด้วย พล.ต.ต.เชาวลิต เลี้ยงสุพงศ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.สงขลา และ พ.ต.อ.นิสิต สาและ ผู้กำกับการ สภ.นาทวี ร่วมแถลงข่าวการจับกุมยาไอซ์ล๊อตใหญ่จำนวน 300 กิโลกรัม รวมมูลค่ากว่า 91 ล้านบาท พร้อมจับกุมเครือข่ายนักค้ายาเสพติดข้ามชาติได้ 3 ราย ประกอบด้วย นายชินฟูเอียน อายุ 36 ปีชาวมาเลเซีย, นายธนัยนันท์ บุญแก้ว อายุ 37 ปี ชาว จ.สงขลา และ น.ส.นันท์นภัส ทรัพย์พรชัยกุล อายุ 41 ปี ชาว จ.สงขลา ซึ่งเป็นแฟนกัน โดยจับกุมได้ที่รีสอร์ทแห่งหนึ่งใน ต.ฉาง อ.นาทวี จ.สงขลา

 

 

 

สำหรับการจับกุมดังกล่าวสืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งว่า มีเครือข่ายค้ายาเสพติดข้ามชาติ ได้ลำเลียงไอซ์จำนวนมากไปเก็บไว้ที่ลองแลรีสอร์ท ตั้งอยู่หมู่ที่ 1 ต.ฉาง อ.นาทวี ก่อนนำไปส่งในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และส่งต่อไปยังมาเลเซีย กระทั่งวันที่ 14 มิ.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่จึงวางแผนจับกุมที่รีสอร์ทดังกล่าว กระทั่งมีคนขับรถฟอร์จูนเนอร์เข้ามาส่ง นายชินฟูเอียน ที่รีสอร์ท เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าจับกุมก่อนพาตัว นายชินฟูเอียน ไปค้นห้องพัก พร้อมตรวจค้นรถยนต์มิตซูบิชิปาเจโร่ สีเทา-ดำ หมายเลขทะเบียน 9 กต 9358 กรุงเทพมหานคร ที่จอดอยู่หน้าห้องพัก พบไอซ์น้ำหนักกว่า 300 กิโลกรัมใส่ไว้ในกระเป๋าสัมภาระ 10 ใบ เจ้าหน้าที่จึงตรวจยึดไว้เป็นหลักฐาน

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

จากนั้นเจ้าหน้าที่อีกหนึ่งชุดได้ออกติดตามคนขัลรถโตโยต้าฟอร์จูนเนอร์ สีดำ ทะเบียนรถ กม 2681 สงขลา ที่ขับมาส่ง นายชินฟูเอียน ซึ่งขับรถมุ่งหน้าไปบนถนนสายนาทวี-จะนะ ก่อนตามไปพบที่หน้าร้านปาหนัน ริมถนนสายจะนะ-นาทวี หมู่ 1 ต.นาทวี อ.นาทวี จึงเข้าจับกุม นายธนัยนันท์ บุญแก้ว คนขับรถ และ น.ส.นันท์นภัส ทรัพย์พรชัยกุล แฟนสาว ที่นั่งมาด้วย จากการสอบปากคำเบื้องต้น นายธนัยนันท์ และ สน.ส.นันท์นภัส ยังให้การปฏิเสธ โดยอ้างว่าแค่ขับรถไปส่ง นายชินฟูเอียน ที่รีสอร์ทเท่านั้น โดยไม่มีส่วนรู้เห็นกับยาไอซ์ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจยึดได้แต่อย่างใด

 

 

 

 

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการขยายผลการจับกุม โดยสามารถติดตามอายัดทรัพย์สินของผู้ต้องหาทั้ง 3 รายได้อีกหลายรายการ อาทิ เครื่อง สร้อยคอทองคำ สร้อยข้อมือทองคำ แหวนทอง เงินสดทั้งเงินไทยและเงินริงกิตมาเลเซีย รถฟอร์จูนเนอร์ 2 คัน, รถปาเจโร่ 1 คันรถเก๋ง 1 คัน รถจักรยานยนต์อีก 2 คัน และโทรศัพท์มือถืออีก 7 เครื่อง

เบื้่องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อกล่าวหากับผู้ต้องหาทั้ง 3 รายฐาน ร่วมกันจำหน่ายซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ไอซ์ อันมีลักษณะเป็นกระทำเพื่อการค้าและก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป โดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนส่งตัวให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีไปตามกฎหมายต่อไป

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"ทนายบอสพอล" เผยเป็นไปตามคาด "เอก สายไหม" ถูกจับ จ่อดำเนินคดีหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 100 ล้าน
ศาลออกหมายจับ 'เจ๊หนิง' พร้อมสามีและหลาน ร่วมกันแจ้งความเท็จ 'ภรรยาบิ๊กโจ๊ก'
อิสราเอลถล่มเลบานอนดับครึ่งร้อย
หมายจับ ICC กระทบอิสราเอลอย่างไร
เปิดวิสัยทัศน์ประธานเครือข่ายธุรกิจ Bizclub นครราชสีมาคนใหม่ “กิม ฐิติพรรณ จันทร์ประทักษ์”
เกาหลีใต้ชี้รัสเซียส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศให้เกาหลีเหนือ
สหรัฐเมินไฮเปอร์โซนิครัสเซียลั่นไม่หยุดหนุนยูเครน
เมียเอเย่นต์ค้ายาบ้า ร้องถูกตร.รีด 5 แสน แลกปล่อยตัว พ่วงเรียกเก็บเงินรายเดือน
สถาปนาเขตพื้นที่คุ้มครองฯ ชาติพันธุ์ชุมชนชาวเลโต๊ะบาหลิว
ผบ.ตร.สั่งสอบคลิปแก๊งต่างด้าว แสดงพฤติกรรมเย้ยกม. กำชับคุมเข้ม ใช้ยาแรง

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น