ทีมหาเสียงของประธานาธิบดี โจ ไบเดน จะใช้งบ 50 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1,840 ล้านบาท ถึงสิ้นเดือนมิถุนายนนี้ สำหรับการลงโฆษณาหาเสียงใน สวิง สเตท หรือรัฐที่สองผู้สมัครมีคะแนนสูสีกัน โดยจะเป็นครั้งแรกที่ทีมงานไบเดน พุ่งเป้าไปที่โดนัลด์ ทรัมป์ มีความผิดติดตัวในคดียัดเงินปิดปาก
โฆษณาหาเสียงความยาว 30 วินาที จะเป็นการตีกรอบให้ชาวอเมริกันเลือก ระหว่าง “อาชญากรที่ต้องความผิดที่ทำเพื่อตัวเองเท่านั้น” กับ “ประธานาธิบดีที่ต่อสู้เพื่อครอบครัว”
ก่อนหน้านี้ ทีมหาเสียงของไบเดน ไม่แตะคดีความของทรัมป์ เพื่อไม่ให้ฝ่ายรีพับลิกัน นำมาครหาได้ว่า ประธานาธิบดีไบเดนกำลังทำให้กระบวนการยุติธรรมเป็นเรื่องการเมือง ขณะที่ทรัมป์ กล่าวหาหลายครั้งแบบลอย ๆ ว่าไบเดนอยู่เบื้องหลังข้อกล่าวหาต่าง ๆ เล่นงานเขา
แต่ทันทีที่ทรัมป์กลายเป็นอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯคนแรกในประวัติศาสตร์ ที่ต้องความผิดในคดีอาญา หลังจากคณะลูกขุนในนิวยอร์ก ตัดสินว่าทรัมป์มีความผิดในข้อหาต่าง ๆ ภายใต้กฎหมายการเงินระหว่างหาเสียง รวม 34 กระทง ทีมหาเสียงไบเดน ก็เริ่มโหมโจมตีคู่แข่งพรรครีพับลิกัน ที่ยังมีคดีความรุงรังรอตัดสินอีกหลายคดี
โฆษณาใหม่ ซึ่งจะรวมถึงการใช้งบกว่า 1 ล้านดอลลาร์ผ่านสื่อ มุ่งเข้าถึงผู้มีสิทธิเลือกตั้งชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชีย ชาวอเมริกันผิวดำ และกลุ่มพูดภาษาสเปน หรือ ฮิสแปนิก โดยจะออกอากาศในตลาดทีวีทั่วไป ทีวีที่เชื่อมต่อบนอุปกรณ์สตรีมมิ่ง และโทรศัพท์มือถือในรัฐสมรภูมิ ตลอดจนสถานีเคเบิลระดับชาติ
แนวทางใหม่ของทีมหาเสียงของไบเดน มีขึ้นก่อนที่ผู้นำสหรัฐ วัย 81 จะขึ้นเวทีดีเบตครั้งแรกกับทรัมป์ วัย 78 ที่ CNN ดำเนินรายการในวันที่ 27 มิถุนายนนี้ ส่วนครั้งที่สอง จะมีขึ้นในวันที่ 10 กันยายน ดำเนินรายการโดยสำนักข่าว ABC
ผลสำรวจของรอยเตอร์สทำร่วมกับอิปซอส หลังทรัมป์ถูกตัดสินมีความผิดอาญา พบว่า มีชาวรีพับลิกัน 10% ที่บอกว่าอาจจะไม่ลงคะแนนให้กับทรัมป์ ส่วนกรณีของฮันเตอร์ ไบเดน ที่ถูกตัดสินมีความผิดฐานแจ้งข้อมูลเท็จเกี่ยวกับการใช้ยาเสพติดเพื่อซื้ออาวุธปืน และทำให้เขาเป็นลูกชายของประธานาธิบดีสหรัฐที่ยังอยู่ในตำแหน่งคนแรก ที่ต้องความผิดคดีอาญานั้น ผลสำรวจพบว่า ส่วนใหญ่บอกว่าคดีของฮันเตอร์ ไม่มีผลต่อการลงคะแนนในวันที่ 5 พฤศจิกายน