วันที่ 18 มิถุนายน 2567 นางสาวมยุรี ศรีระบุตร ผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคนิคพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่าจาการที่มีสื่อบางสำนักนำเสนอข่าวว่ามีตำรวจเป็น 100 นายไล่ต้อนนักเรียน เพื่อให้เข้าเรียน เพราะกลัวนักเรียนจะเปิดศึกล้างแค้นกันนั้น ต้องขอชี้แจงดังนี้ ภาพที่ปรากฏเห็นว่ามีตำรวจจำนวนหลายนาย เข้าทำการตรวจค้นอาวุธ ในรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และมีการตรวจค้นตามร่างกายนักเรียนนั้น เป็นการประสานงานร่วมกันระหว่างวิทยาลัยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในการปฏิบัติงานต้องมีการสำรวจตรวจสอบความเรียบร้อย ก่อนที่นักเรียนจะเข้ารับฟังการอบรมพูดคุย แนะนำ ทำความเข้าใจ ให้ความรู้ กับนักเรียน นักศึกษา เรื่องข้อกฎหมาย ความผิดในการก่อเหตุทะเลาะวิวาท การใช้รถที่ไม่มีอุปกรณ์ส่วนควบ เช่นไม่ติดแผ่นป้าย ทะเบียน ไม่ติดอุปกรณ์รถให้ครบถ้วน ท่อดัง ร่วมถึงโทษของการมีบุหรี่ไฟฟ้าไว้ในครอบครอง และการกระทำความผิดต่างๆ จากเจ้าหน้าที่ตำรวจ เมื่อวันที่ 17มิถุนายน 2567 ที่ผ่านมา เพื่อให้นักเรียนได้เรียนอย่างมีความสุข ปลอดภัยตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการที่เน้นเรื่องความปลอดภัยของผู้เรียนและนักเรียนเรียนอย่างมีความสุข
ผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคนิคพระนครศรีอยุธยา ออกโรงชี้แจงว่าอย่าเข้าใจผิด ไม่ใช่ตำรวจไล่ต้อนนักเรียนเข้าเรียน แต่เป็นการเชิญตำรวจมาอบรมนักเรียน ให้ความรู้ เพื่อป้องกันปัญหาการทำผิดกฎหมาย
ข่าวที่น่าสนใจ
ซึ่งเป็นนโยบายการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจโดย พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา ได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.สุรพจน์ รอดบำรุง รอง ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าพูดคุยแนะนำ ให้กับนักเรียน นักศึกษา ในการนี้ พ.ต.อ.สุรพจน์ รอดบำรุง รอง ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา ได้นำกำลังทั้งในและนอกเครื่องแบบ ขอตรวจค้น เพื่อป้องกันเหตุและนำสิ่งของผิดกฎหมายมาโรงเรียน พร้อมทั้งขอความร่วมมือให้นักเรียน นักศึกษานำรถจักรยานยนต์ เข้ามาจอดภายในวิทยาลัยฯ เพื่อไม่ให้กีดขวางพื้นที่ทางเท้า และ ทางจราจร ซึ่งเป็นการป้องปราม เพื่อไม่ให้นักเรียน-นักศึกษา กระทำในสิ่งที่ผิดกฎหมาย และสร้างปัญหาให้กับสังคม
แต่มีสื่อบางสำนักได้นำภาพดังกล่าว ไปนำเสนอในอีกแง่หนึ่ง ซึ่งอาจจะสร้างความคลาดเคลื่อนแก่ผู้บริโภคข่าวสาร เสมือนกับว่าจะมีการเปิดศึกล้างแค้นของนักเรียนต่างสถาบัน จนเจ้าหน้าที่ต้องเข้ามาปิดล้อมตรวจค้นอาวุธรายตัวเพื่อควบคุมสถานการณ์อะไรประมาณนั้น ซึ่งความเป็นจริงแล้ว เป็นการที่ทางวิทยาลัยได้ขอความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ นักเรียน-นักศึกษา และผู้ปกครอง ได้มาพูดคุยแนะนำ ทำความเข้าใจในข้อกฎหมายต่างๆ รวมถึงเหตุการณ์ที่มีการก่อเหตุทะเลาะวิวาท ระหว่างนักเรียน ต่างสถาบัน จนทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต ซึ่งผู้ก่อเหตุทั้ง 2 ฝ่ายก็มีทั้งผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต และถูกดำเนินคดีหมดอนาคตกันไป จึงข้อชี้แจงทำความเข้าใจให้ทราบโดยทั่วกัน
เกียรติยศ ศรีสกุล ผอ.ข่าว TOPNEWS ภาคกลาง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง