“บิ๊กเต่า” เผย “8 ลูกเรือ” ให้การเป็นประโยชน์ โยง “เสี่ยโจ้” บงการฉกเรือขนน้ำมันเถื่อน

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวอีกว่า ผู้ต้องหา 3 ใน 8 ราย รับว่าเป็นไต้ก๋งเรือ โดยได้รับคำสั่งจากเจ้าของเรือให้นำเรือออกจากฝั่งท่าเทียบเรือสัตหีบ ในวันที่ 11 มิ.ย.ที่ผ่านมา เพื่อเอาเรือและน้ำมันทั้ง 3 ลำไปขายให้กับเรือขนาดใหญ่ที่สามารถบรรจุน้ำมันได้ 1-2 ล้านลิตรซึ่งลอยอยู่กลางทะเล โดยลูกเรือ 7 รายจากเรือทั้ง 3 ลำ ขึ้นเรือขนาดใหญ่ไปด้วย ก่อนที่เรือทั้ง 3 ลำจะมุ่งหน้าไปประเทศกัมพูชา แล้วทำการแปรเปลี่ยนสภาพเรือ

จากนั้นได้รับคำสั่งให้มุ่งหน้ามาที่ จ.ปัตตานี ซึ่งมีเรือ เจ.พี. เป็นเรือนำทาง เพราะเป็นเรือลำเดียวที่มี GPS ซึ่งเมื่อครั้งที่ถูกจับกุมผู้ต้องหานำ GPS ไปซ่อนไว้ทำให้เจ้าหน้าที่ตรวจไม่พบ พร้อมยืนยันว่าการจับกุมในครั้งนี้ไม่ได้เป็นการจัดฉาก หรือสร้างภาพ หรือมีการประสานกับทางผู้บงการอย่างแน่นอน

สำหรับปฏิบัติในครั้งนี้ เป็นไปตามยุทธวิธีของตำรวจน้ำ โดยมีเรือใหญ่เป็นศูนย์บัญชาการคอยกำกับดูแล ก่อนส่งชุดปฏิบัติการพิเศษซึ่งเป็นเรือเล็กพร้อมกำลังเจ้าหหน้าที่ และอาวุธครบมือเข้าจับกุมทันทีเมื่อพบเรือทั้ง 3 ลำลอยลำอยู่กลางทะเล แต่เนื่องจาก เรือดาวรุ่ง เครื่องยนต์เสีย จึงทำให้เรืออีก 2 ลำต้องเข้ามาช่วยลากจูง เมื่อผู้ต้องหาเห็นเจ้าหน้าที่ก็ยอมจำนน โดยให้ความร่วมมือกับตำรวจชุดจับกุมเป็นอย่างดี

นอกจากนี้ไต้ก๋งเรือให้การรับสารภาพว่า ได้รับการประสานทางโทรศัพท์ดาวเทียมกับผู้บริหารและเจ้าของเรือซึ่งเป็นเจ้าของเรือขนาดใหญ่ อีกทั้งยังเป็นเจ้าของเรือทั้ง 3 ลำ ซึ่งผู้บริหารหรือเจ้าของเรือหรือคนที่เรียกให้เอาน้ำมันไปส่ง มีความขัดเจนตามกระแสข่าวว่า คือ “เสี่ยโจ้” ส่วนความผิดในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน ก่อนพิจารณาออกหมายจับ “เสี่ยโจ้” ภายในสัปดาห์หน้า