“ดร.สฤษดิ์” ชี้การศึกษาไทยถึงยุคต้องปฏิวัติพลิกโฉม “นันทนา” มั่นใจรัฐใช้งบฯตอบโจทย์พัฒนาปท.

"ดร.สฤษดิ์" ชี้การศึกษาไทยถึงยุคต้องปฏิวัติพลิกโฉม "นันทนา" มั่นใจรัฐใช้งบฯตอบโจทย์พัฒนาปท.

ดร.สฤษดิ์” ชี้การศึกษาไทยถึงยุคต้องปฏิวัติพลิกโฉม “นันทนา” มั่นใจรัฐใช้งบฯตอบโจทย์พัฒนาปท.

ดร.สฤษดิ์ บุตรเนียร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดปราจีนบุรี อภิปรายการสนับสนุน พิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจําปีงบประมาณ 2568 ว่า ประเทศไทยกําลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างสมบูรณ์แบบแล้ว เด็กเกิดน้อย ปัญหาประชากรลดลงแน่นอน แรงงานก็ต้องลดลงตามลําดับ ต่อให้เกิดโรงเรียนขนาดเล็กอย่างมากมาย แล้วคาดกันว่าก็ต้องยุบลงไปถ้าไม่มีเด็กนักเรียน โอกาสนี้ก็เกิดยุคดิจิทัล มีการเปลี่ยนแปลง การประชุมในระดับโลกก็เตือนให้รู้ว่าหากประเทศใดไม่เร่งพัฒนาดิจิทัล และสิ่งแวดล้อม ก็ไม่สามารถจะก้าวทันกับโลกได้ ประเทศไทยควรไปหาโอกาสในวิกฤติที่เกิดขึ้นจากทั่วโลกนี้ เร่งพัฒนาด้าน AI ด้านดิจิทัลทางการเกษตร และอาหาร ซึ่งเป็นจุดแข็งโดยใช้เทคโนโลยีเป็นตัวนําทาง

ดังนั้นการศึกษาเป็นเครื่องมือที่สําคัญในการใช้ความรู้พัฒนาคนให้ก้าวทันโลกได้ และเป็นรากฐานของการพัฒนาเศรษฐกิจสังคมการเมือง รัฐบาลให้ความสําคัญกับการศึกษาเป็นอย่างมากโดยจัดสรรงบประมาณทางด้านการศึกษาอย่างต่อเนื่อง และต้องขอขอบคุณรัฐบาลในชุดนี้ที่ให้เงินหมุนเวียน แก้ไขปัญหาหนี้สินของครู ซึ่งคุณครูเป็นบุคคลสําคัญที่สุดที่จะพัฒนาการศึกษาอย่างก้าวไกลให้เงินหมุนเวียนด้าน กยศ.ถึง 800 ล้านบาท ในการที่จะแก้ปัญหาให้เด็กลดภาระโดยเฉพาะพรรคภูมิใจไทยในสมัยที่แล้ว นําโดยท่านอนุทิน ชาญวีรกูล ที่ผลักดันปลดผู้ค้ำประกัน ลดดอกเบี้ย ลดเบี้ยปรับลงมาโดยต่อเนื่อง

ดร.สฤษดิ์

ข่าวที่น่าสนใจ

งบประมาณด้านการศึกษาแม้จะถูกเถียงกันว่าจํานวนมาก แต่เชื่อว่าการจัดสรรงบประมาณนี้น้อยมาก มันอยู่ที่การจัดงบประมาณอย่างไรให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด งบประมาณทั้งหมด 300,000 กว่าล้าน 60% เป็นงบประมาณของบุคลากร และครู บุคลากรทางการศึกษา 20% เป็นเรื่องของงบประมาณให้เรียนฟรี 15 ปี โครงการโรงเรียนประจําดี ประจำตําบล อุดหนุนค่าอาหารกลางวัน เงินเสริมหรือกองทุนเสมอภาคเพื่อศึกษาไป 20% หรือ 28% จะก่อให้เกิดปัญหาว่าเราจะทําอย่างไรกับเงินใน 18% ที่เหลือนี้ เพราะเหตุว่าจากที่งบประมาณแผ่นดินที่มีอยู่อย่างไรก็ตาม 80% เป็นงบที่ฟิคซ์อยู่แล้ว ไม่สามารถที่จะแตะต้องได้เลยมันเป็นงบประมาณเป็นสิทธิของครูบุคลากร และตัวเด็ก

สรุปได้ว่าการศึกษาที่เป็นรากฐานนั้นไม่ได้หมายความว่าเงินจํานวนเท่าไหร่ สาเหตุหลักอยู่ที่ตรงที่ว่า การที่ทําให้คุณภาพไม่สามารถพัฒนาได้แท้จริงแล้วอยู่ที่รูปแบบการจัดงบประมาณที่ไม่ถูกต้อง เช่น เงินงบประมาณในรายหัวที่จะให้กับเด็กนั้นไม่มีความสนองตอบโต้เป็นขนาดเล็ก ซึ่งสร้างปัญหาในความเสมอภาค ดังนั้น สรุปประเด็นปัญหา ตัวอย่างเช่น 60% ที่เป็นอยู่ เราไปใช้จ่ายกับเงินเดือนครูบุคลากรแม้ว่าคุณครูบุคลากรจะเป็นกลไกที่สําคัญอย่างยิ่งในการศึกษา แต่ก็ไม่สะท้อนตอบต่อความจําเป็นเรื่องของการพัฒนาคุณภาพ เด็กที่ได้ประมาณในเรื่องของการเรียนฟรี 15 ปี ในถึงโครงการอาหารกลางวันหรือนม เรื่องของปัญหาต่างๆ ที่ๆเราเกิดขึ้น

“พรรคภูมิใจไทยมองว่า เราต้องปฏิวัติ ไม่ใช่เพียงแต่ปฏิรูปค่อยเป็นค่อยไปแล้ว วันนี้โลกมันเปลี่ยนแปลงไปวินาทีเป็นไปพร้อมกับแสงแล้ว ไม่ใช่เปลี่ยนไปอย่างสมัยก่อนที่ไปก็ล้อเกวียนหรือรถสิบล้อ เราควรจะปฏิวัติ ส่วนที่เสนอไว้ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความไม่เสมอภาค ความเหลื่อมล้ำ เรื่องของค่าใช้จ่ายโดยเฉพาะเด็กนักเรียนครอบครัวผู้ปกครองต้องใช้จ่ายกับเรื่องของเด็กเรียนพิเศษ เด็กที่ต้องให้ค่ารถ ค่าเสื้อผ้า อุปกรณ์การเรียนเพิ่มขึ้นทุกขั้นตอน พรรคภูมิใจไทยได้นําเสนอก็ควรที่จะมีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างของงบประมาณในเรื่องแพลตฟอร์ม ถูกตัดไปถึง 2,000 กว่าล้านเกินกว่าครึ่งหนึ่ง

แสดงให้เห็นว่าทางสํานักงบประมาณยังไม่ให้ความสําคัญในเรื่องของการใช้เทคโนโลยีเท่าที่ควร แล้วคําตอบในการแก้ปัญหาก็คือการสร้างแพลตฟอร์มให้เกิดขึ้น ให้เกิดทั่วถึงเท่าเทียม และเด็กสามารถจะเรียนได้ทุกที่ทุกเวลาทุกโอกาสค ดังนั้นเห็นได้ว่าหากว่าเราควรจะงบประมาณสํานักงบประมาณควรจะตระหนักถึงความจําเป็นเป็นการแก้ปัญหาการศึกษาอย่างแท้จริง พลตํารวจเอกเพิ่มพูน ชิดชอบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาท่านก็พยายามที่จะให้เรียนดีมีความสุข ไม่ว่าจะเป็นลดภาระของคุณครู การจ้างภารโรงเพื่อให้คุณครูที่ทํางานในการเรียนการสอนอย่างเต็มที่เพื่อให้ก่อเกิดคุณภาพ ลดภาระของผู้ปกครองของนักเรียน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเสื้อผ้าให้ใช้หรือผ่อนผันให้แต่งตัวตามอัตภาพ”

ดร.สฤษดิ์ ระบุด้วยว่า รัฐบาลควรจะให้ความเสมอภาคไม่ว่าจะเป็นเด็กทั้งภาครัฐบาลองค์การบริหารส่วนท้องถิ่นหรือรวมเอกชนซึ่งถ้วนแล้วแต่ขาดความเสมอภาคความเท่าเทียมกัน “ไม่ว่าจะพูดอย่างไรก็ตาม ผมถือว่าการลงมือปฏิบัติมันสําคัญที่สุดครับ รัฐมัวแต่พูดคําว่าเสมอภาค เท่าเทียมดีที่สุดแล้วอันนั้นไม่ใช่ ต้องเกิดจากการลงมือปฏิบัติให้ผู้ปกครองทุกคนเห็นว่ารัฐจริงใจต่อทรัพยากรบุคคล”

วันนี้เด็กเราลดลงไปทุกวัน การเกิดน้อย ที่สุดก็ต้องใช้เทคโนโลยี เอา AI เข้ามาช่วย ในฐานะของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคภูมิใจไทย ก็ขอสนับสนุนพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจําปี 2568 ในวันที่หนึ่ง และขอให้คณะกรรมการวิสามัญที่จะตั้งขึ้นในการพิจารณางบประมาณได้ช่วยกันพิจารณางบประมาณด้วยความรอบคอบให้เกิดประโยชน์สูงสุดให้ประสิทธิภาพได้ประโยชน์ของประชาชนโดยทั่วไป และขอให้คํานึงถึงการศึกษา เพราะการศึกษาเป็นการสร้างคนแล้วคนนี่แหละเป็นทรัพยากรที่สําคัญที่สุดในการที่จะสร้างชาติต่อไปในอนาคต

 

ขณะที่ นางนันทนา สงฆ์ประชา สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย อภิปรายร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ว่า การศึกษาเป็นความสําคัญของประเทศ โดยเฉพาะท่านจะเห็นว่าสส.พรรคภูมิใจไทย ได้อภิปรายความสําคัญของการศึกษาในประเทศไทยปัจจัยสําคัญในการบริหารประเทศ เพราะการศึกษาจะช่วยพัฒนาความสามารถของประชากร ประชากรจะมีคุณภาพมากขึ้น ยกตัวอย่างเช่นประเทศสิงคโปร์ ประเทศจีน ประเทศสหรัฐอเมริกา แม้แต่ประเทศรัสเซีย และประเทศในแถบทวีปยุโรป จะจัดสรรงบประมาณให้ความสําคัญกับทางด้านการศึกษา อย่างเพียงพอ เป็นการสร้างคนสร้างชาติกันต่อไป

รัฐบาลตั้งเป้า ที่จะให้กระทรวง ทบวง กรมต่างๆ ไปรับผิดชอบ โดยให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางเมืองท่องเที่ยว เป็นศูนย์กลางด้านการแพทย์ และสุขภาพ เป็นศูนย์กลางด้านอาหารโลก เป็นศูนย์กลางการบิน และการซ่อมบํารุง เป็นศูนย์กลางการขนส่งในภูมิภาคนี้คืออาเซียน เป็นศูนย์กลางผลิตยานยนต์แห่งอนาคตโดยเฉพาะรถอีวีที่จะเป็นอนาคตต่อไป เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจดิจิทัล และโดยเฉพาะอย่างยิ่งให้เป็นศูนย์กลางทางด้านการเงิน

 

 

“วิสัยทัศน์ทั้ง 8 ข้อ เป็นวิสัยทัศน์ที่ดีมากในภาวะปัจจุบัน ดิฉันเกรงว่า เราจะมีประชาชนที่มีความสามารถไม่เพียงพอ เพื่อจะมารองรับและขับเคลื่อนในวิสัยทัศน์ต่างๆ ดังกล่าว ได้อย่างมีประสิทธิภาพและเพียงพอหรือไม่ ประเทศไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุแบบเต็มรูปแบบ ปัญหาระบบการศึกษาที่ยังคงให้ความสําคัญกับปริญญามากกว่า ความรู้ในการประกอบอาชีพ ทําให้จะไม่สอดคล้องกับทิศทางในการพัฒนาประเทศ”

งบประมาณปี 2568 รัฐบาลได้ให้ความสําคัญกับการพัฒนาประเทศ และพร้อมที่จะแก้ไขปัญหาด้านเศรษฐกิจ ซึ่งจะเห็นได้จากนโยบาย รัฐบาลได้นําเอาเทคโนโลยี คลื่นความถี่การใช้ดาวเทียมมาใช้อย่างเต็มรูปแบบ การบริหารจัดการแปลงเกษตรด้านนวัตกรรมเกษตรแม่นยํา การดึงดูด FDI (Foreign Direct Investment) การลงทุนจากต่างประเทศ การส่งเสริมอุตสาหกรรม การวิจัย พัฒนาพันธุ์พืชทางการเกษตรเพื่อเพิ่มผลผลิต และมูลค่าสินค้าเกษตร การส่งเสริม และวิจัยชั้นแนวหน้าการทําให้ไทยเป็นศูนย์กลางทางการบิน

แม้ว่ากระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม จะมีวิสัยทัศน์ในการสร้างกําลังคนเพื่อรองรับกลุ่มอุตสาหกรรมแห่งอนาคตเพื่อนําเสนอแผนผลิตพัฒนากําลังคนเพื่อรองรับการลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมใหม่ ต้านแรงงานที่มีทักษะสูงให้สามารถรองรับอุตสาหกรรมไฮเทค ความพยายามของรัฐบาลที่จะพัฒนาศึกษาโครงสร้างสร้างประสิทธิภาพให้สอดคล้องกับความเจริญของโลกในการพัฒนาเทคโนโลยีสมัยใหม่ ฉะนั้น รัฐบาลต้องเตรียมการพัฒนาความชํานาญเฉพาะทาง ในวิชาชีพต่างๆ อย่างมีประสิทธิภาพและทั่วถึง

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"อัจฉริยะ" แจงผลสอบ "อาหารเสริม Eighteen 18" พบมีเลข อย.ถูกต้อง
"อดีตบิ๊กข่าวกรอง" ชี้เจรจา MOU 44 ถามคนไทยหรือยัง เอาพลังงานหรืออธิปไตย
สุดเศร้า "นักเรียน ม.4" เรียนวิชาพละ  วิ่งได้ 200 เมตร หัวใจวายเสียชีวิต
"ณัฐวุฒิ" โอ่คนไทยอ่านขาดแล้ว เกมฝ่ายขวาจัด ปลุกชาตินิยม ล้มรบ. เย้ยรอบนี้ไม่ง่ายเหมือนก่อน
เปิด 40 รายชื่อ สรุปยอดผู้สมัคร ป.ป.ช. พบคนดังเพียบ
"ยายวัย 80 ปี" เครียดอยากจบชีวิต หลังถูก "แก๊งคอลเซ็นเตอร์" หลอกโอนเงินเก็บเกลี้ยงบัญชี
"ร้านเนื้อย่างดัง" โพสต์ตามหา "ลูกค้า" โอนเงินค่าอาหารเกิน 2 แสนบาท
กรมอุตุฯ ประกาศฉบับ 10 เตือน ปชช.ไทยตอนบนอากาศแปรปรวน ภาคใต้ฝนตกหนัก เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน
ระทึก ! บุกยิงบ้านผู้ใหญ่ โบว์ คาดว่า การเมือง ท้องถิ่นเป็นเหตุ
‘บิ๊กต่าย’ เผยตร.ทำงานยังคงทำคดี ‘ดิไอคอน’ ตามที่ DSI ร้องขอ

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น