“ทนายตั้ม” ยกมือไหว้ขอโทษปชช. กลางงานแถลง หลัง “บิ๊กต่อ” กลับนั่ง ผบ.ตร. ลั่นจากนี้จะระวังตัวมากขึ้น

"ทนายตั้ม" ยกมือไหว้ขอโทษปชช. กลางงานแถลง หลัง "บิ๊กต่อ" กลับนั่ง ผบ.ตร. ลั่นจากนี้จะระวังตัวมากขึ้น

Top news รายงาน เมื่อเวลา 13.00 น. วันนี้ (20 มิ.ย.67) ทนายตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ แถลงข่าวเปิดใจหลังนายวิษณุ เครืองาม ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี แถลงข่าวเรื่องผลสอบวินัยเกี่ยวกับความขัดแย้งของสองบิ๊กตำรวจ ระหว่าง พลตำรวจเอกต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ โดยระบุว่าการที่คณะกรรมการไม่เขียนในรายงานตัดสินว่าใครมีความผิด และโยนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการต่อ

โดย ทนายตั้ม เปิดเผยว่า คนที่เป็นหัวหน้ารัฐบาล และเป็นคนคุมสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พูดง่ายมาก ยกตัวอย่างคดีที่ สน.เตาปูน พนักงานสอบสวนก็เป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของพลตำรวจเอกต่อศักดิ์ จึงเชื่อว่าตำรวจเหล่านี้คงไม่กล้าดำเนินคดี ส่วนนายกรัฐมนตรีเป็นหัวหน้าของรัฐบาล และมีอำนาจกลุ่มสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กลับปล่อยให้ผลการตรวจสอบของคณะกรรมการระบุว่า มีความขัดแย้งกันจริง แต่ไม่ได้ดูรายละเอียดว่าใครผิด หรือถูก และสุดท้ายก็ให้แยกย้ายกันไป โดยที่ไม่ได้คำนึงถึงความอึดอัดของผู้ใต้บังคับบัญชา ถือว่าเป็นการลอยตัวเหนือปัญหา

 

ทนายตั้ม ยกมือไหว้ขอโทษปชช. กลางงานแถลง หลัง บิ๊กต่อ กลับไปนั่ง ผบ.ตร. ลั่นจากนี้จะระวังตัวมากขึ้น

 

ส่วนการมีคำสั่งให้พลตำรวจเอกต่อศักดิ์ กลับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทนายตั้ม รู้สึกว่า ประเทศไทยเป็นประเทศเดียวในโลกที่มี ผบ.ตร. ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการฟอกเงิน สามารถกลับมาดำรงตำแหน่งเดิมได้ ทั้งที่ยังไม่ได้พิสูจน์สิ่งที่ตนเองเคยแจ้งความแล้วร้องเรียนไป ซึ่งก่อนหน้านี้ตนเองได้ไปแจ้งความที่ สน.เตาปูน และคณะกรรมการอีก 3 คณะ ซึ่งได้นำเอกสารหลักฐานไปมอบให้เพื่อพิสูจน์ทราบ และพยานบุคคล เช่น ได้พาพยานที่เป็นสายลับ มีหน้าที่เก็บเงินจากเว็บพนันส่งส่วยให้พลตำรวจเอกต่อศักดิ์ และภรรยา ไปให้คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ที่มีนายฉัตรชัย พรหมเลิศ อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานทำการไต่สวนตรวจสอบ แต่ปรากฏว่า ก็ไม่มีรายงานระบุความผิดแต่อย่างใด

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ในส่วนคณะกรรมการตรวจสอบชุดอื่น และ สน.เตาปูน ก็ไม่มีความคืบหน้าเช่นเดียวกัน ทั้งที่ ตนเองสามารถหาหลักฐานเชื่อมโยงได้ว่าพลตำรวจเอกต่อศักดิ์พัวพันกับ 18 ธุรกิจสีเทา รวมถึงภรรยาของพลตำรวจเอกต่อศักดิ์ ก็ได้รับเงินจากเว็บพนันออนไลน์หลักร้อยล้านบาท ทั้งที่ไม่มีอาชีพ อีกทั้ง พลตำรวจเอกต่อศักดิ์ ก็ไม่ได้มีธุรกิจอะไรที่จะหาเงินได้มากขนาดนี้ ในขณะที่คดีของ พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ ทำได้อย่างรวดเร็ว มีความสองมาตรฐานอย่างชัดเจน

และส่วนตัวทราบมาว่า มีการดีลกันให้ พลตำรวจเอกต่อศักดิ์ และพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ กลับไปปฏิบัติงานที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และมีนักการเมืองระดับชาติมาเสนอให้ตนเองยุติบทบาท โดยมีเงื่อนไขว่าจะดูแล ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นการให้เงิน แต่ตนเองได้ปฏิเสธไป เนื่องจากตนเองออกมาแฉในฐานะทนายประชาชน

ซึ่งในวันนี้ตนเองรู้สึกอัดอั้น จึงอยากออกมาระบาย พร้อมยกมือไหว้ขอโทษประชาชนที่ทำภารกิจนี้ไม่สำเร็จ แต่อย่างไรก็ตามยืนยันว่าจะเดินหน้าต่อไป เพราะที่ผ่านมาตนเองเอาชีวิตของตน และครอบครัวเข้าแลก ซึ่งได้ระมัดระวังตัวมาโดยตลอด เพราะอาจถูกตามเช็กบิลได้ตลอดเวลา และหลังจากนี้จะเพิ่มความระมัดระวังตัวให้มากกว่าเดิม หลังจากพลตำรวจเอกต่อศักดิ์ ได้กลับมาเป็น ผบ.ตร. ซึ่งมีอำนาจในการคุมตำรวจทั้งประเทศ

 

ทนายตั้ม ยกมือไหว้ขอโทษปชช. กลางงานแถลง

 

นอกจากนี้ ตนเองทราบมาอีกว่า การที่พลตำรวจเอกต่อศักดิ์ ได้กลับมาที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติครั้งนี้ เพราะเดือนหน้ามีภารกิจสำคัญ และคาดการณ์ว่า หลังภารกิจนี้เสร็จสิ้น พลตำรวจเอกต่อศักดิ์ ก็จะลาออกจากราชการ

ส่วนที่คณะกรรมการกฤษฎีกามีมติ 10 ต่อ 0 ให้ความเห็นว่า คำสั่งให้พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ ออกจากราชการไว้ก่อน ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ผู้ที่รับผิดชอบก็คงหนีไม่พ้น พลตำรวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รักษาราชการแทน ผบ.ตร. เพราะเป็นผู้ที่ลงนามคำสั่ง ตนเองเชื่อว่า บิ๊กโจ๊ก จะไปแจ้งความดำเนินคดีภายหลังแน่นอน แล้วตนเองก็เชื่อว่า พลตำรวจเอกต่อศักดิ์ คงช่วยพลตำรวจเอกกิตติ์รัฐ ไม่ได้ เพราะตนเองรู้นิสัยของพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ ดีว่า “ใครทำเขา เขาเอาคืนอยู่แล้ว”

 

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวถามว่าการออกมาแถลงในวันนี้ จะกระทบกับการลงสมัคร สว.หรือไม่ ทนายตั้ม ระบุว่า ตนเองลง สว. ผ่านระดับจังหวัด ตอนนี้เข้าสู่ระดับประเทศแล้ว ยอมรับว่า มีขบวนการสกัดกั้นไม่ให้ตนเองเข้าไปมีอำนาจทางการเมือง แต่ตนเองจะได้เป็นหรือไม่ก็อยู่ที่บุญวาสนา หากได้เข้าไปเป็น สว.ตนเองก็จะมีโอกาสทำประโยชน์ได้มากกว่าทุกวันนี้

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

เมีย-แม่ยาย หอบเงินล้าน บุกติดสินบนตำรวจ ช่วยผัวค้าเฮโรอีน สุดท้ายถูกซ้อนแผนโดนรวบตัว
ไทยตอนบนอากาศยังหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 12 องศา ใต้เจอฝนฟ้าคะนองบางแห่ง กทม. มีหมอกบางตอนเช้า ร้อนสุด 31 องศา
ฮีโร่โอลิมปิคเหรียญทองน้องอร “ฉายาสู้โวย” ร่วมแข่งขันกีฬาพื้นบ้าน ในงานกีฬาประจำปีอบต.ไทยสามัคคี พร้อมลงแข่งขันตีกอล์ฟบก สร้างความสนุกสนานเฮฮา
"สธ." ยันพบชาวเมียนมา ป่วยอหิวาฯ รักษาฝั่งไทย 2 ราย อาการไม่รุนแรง
สุดทน "พ่อพิการ" ร้อง "กัน จอมพลัง" หลังถูกลูกทรพี ใช้จอบจามหัว-ทำร้ายร่างกาย จนนอน รพ.นับเดือน
สลด กระบะชนจยย.พลิกคว่ำตก "ดอยโป่งแยง" เชียงใหม่ เจ็บตายรวม 13 ราย
“สมศักดิ์” ยกนวดไทยเป็นมรดกชาติ สร้างมูลค่าเศรษฐกิจสุขภาพ เล็งพาหมอนวดโกอินเตอร์ โชว์ฝีมืองาน เวิลด์เอ็กซ์โปโอซาก้า ญี่ปุ่น
ห่ามาแล้ว! “แม่สอด” พบติดเชื้ออหิวาต์ เผยญาติฝั่งพม่าซื้อข้าวมากินด้วยกัน
ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ สั่งตั้งคกก.สอบ "ตร.จราจร" รีดเงินแทนเขียนใบสั่ง
สตม. บุกทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ กลางคอนโดหรูห้วยขวาง รวบ 6 คนจีน อึ้งเจอซิมการ์ด 2 แสนซิม

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น