“บิ๊กเต่า” สั่งเอาผิดตำรวจอยู่ในแชทไลน์คุย “เสี่ยโจ้” ลั่นใครผิดจริง ฟันไม่เลี้ยง

“บิ๊กเต่า” สั่งเอาผิดตำรวจอยู่ในแชทไลน์คุย “เสี่ยโจ้ ปัตตานี” ลั่น งานนี้ผิดจริงต้องมีเลือดออกกันบ้าง ด้านผู้การฯตำรวจน้ำ ยัน โพยส่วย ไม่ใช่ยุคตนเอง แต่เป็นของปี 2555

“บิ๊กเต่า” สั่งเอาผิดตำรวจอยู่ในแชทไลน์คุย “เสี่ยโจ้” ลั่นใครผิดจริง ฟันไม่เลี้ยง – Top News รายงาน

บิ๊กเต่า

 

 

 

เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2567 พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมด้วย พล.ต.ต.พฤทธิพงศ์ นุชนารถ ผู้บังคับการตำรวจน้ำ  พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการตำรวจปราบปราม และ พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมกันแถลงความคืบหน้าการสืบสวนสอบสวนคดีผู้ต้องหาขโมยเรือน้ำมันเถื่อนของกลางหลบหนี โดย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ดำเนินการทุกอย่าง ที่ได้รับมอบหมายจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และผู้บัญชาการสอบสวนกลาง ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งยืนยันทำตามขั้นตอนของกฎหมายอย่างเคร่งคัด เพื่อรักษาภาพลักษณ์ขององค์กรตำรวจ ไม่ให้ถูกตราหน้าได้ว่า เป็นผู้บังคับใช้กฎหมาย แต่เรือลำใหญ่ไม่สามารถดูแลของกลางได้

ขณะที่ตำรวจมีประเด็นที่ต้องดำเนินการอยู่ 3 เรื่องด้วยกัน ดังนี้

1.การตรวจสอบเจ้าหน้าที่ที่บกพร่องในการปล่อยปละละเลยทำให้เสื่อมเสียต่อทางราชการ รวมถึงการตรวจสอบข้อเท็จจริงต่างๆ โดยจะนำทุกสำนวนมารวมเป็นสำนวนเดียว และการตรวจสอบแชทที่หลุดออกมา ยืนยันจะทำอย่างตรงไปตรงมา เพื่อรักษาองค์กรเอาไว้ จะดำเนินคดีไม่ว่ายศเล็กหรือยศใหญ่ จะดำเนินคดีโดยไม่มีความลำเอียง ขอให้เกิดความเชื่อมั่นในส่วนนี้

2.การนำเรือของกลางกลับมา สามารถนำกลับมาได้ด้วยการประสานงานจากภาคีเครือข่าย

3.การตรวจสอบทั้งหมดจะรวมสำนวนมาไว้เป็นสำนวนเดียว

 

ข่าวที่น่าสนใจ

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ยังได้ตอบคำถามกรณีแชทหลุดการพูดคุยระหว่าง เสี่ยโจ้ ปัตตานี กับ กลุ่มข้าราชการตำรวจ นั้น จากการตรวจสอบเชื่อได้ว่า แชทดังกล่าวเป็นแชทจริง โดยเป็นการสนทนาระหว่างข้าราขการตำรวจ 4 – 6 คน ซึ่งหนึ่งในนั้น เป็นทหารเรือ เพื่อนร่วมรุ่นเดียวกันกับตัวเอง ก่อนที่จะมีการโอนย้ายไปเป็นตำรวจน้ำ

อีกทั้งตัวเองในฐานะหัวหน้าคณะทำงาน อยากเรียกร้องให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เสนอหน่วยงานอื่นเข้ามาตรวจสอบ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน และข้าราชการตำรวจที่ถูกกล่าวหา เพื่อเป็นการพิสูจน์ความจริง ซึ่งส่วนนี้จะเป็นหน้าที่ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่จะพิจารณาว่า คณะกรรมการชุดใดจะมีความเหมาะสม

 

สำหรับตำรวจที่พูดคุยกับในแชทไลน์กับ เสี่ยโจ้ ปัตตานี นอกจากตำรวจน้ำเพื่อนร่วมรุ่นกับ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ แล้วนั้น ยังมีรายงานว่า ส่วนที่เหลืออีก 5 คน แบ่งเป็น รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง 2 คน, รองผู้บังคับการ สังกัดกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง 2 คน, ผู้กำกับการอีก 1 คน พร้อมยืนยันตัวเองไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง เพราะไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับเรื่องนี้อยู่แล้ว โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง

ด้าน พล.ต.ต.พฤทธิพงศ์ เปิดเผยว่า เรือของกลางหายนั้น ทางกองบังคับการตำรวจน้ำ เสียใจที่เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ขึ้น ความบกพร่องกรณีดังกล่าวจะเยียวยาได้ดีที่สุด คือ การตามเรือของกลาง น้ำมันในเรือ และผู้ต้องหา กลับมาให้ได้ ทั้งนี้ขอไล่ไทม์ไลน์ ดังนี้

เมื่อวันที่ 17 มีนาคมที่ผ่านมา ได้มีการจับกุมเรือ 5 ลำ ต่อมาวันที่ 12 มิถุนายน เรือได้สูญหายจากท่าเทียบเรือ จากการตรวจสอบเบื้องต้นได้สอบปากคำผู้เกี่ยวข้อง มีผู้เข้าข่ายความผิดบกพร่องจากการปฎิบัติหน้าที่ จำนวน 3 ราย ซึ่งผลสรุปจะนำเสนอกองบัญชาการสอบสวนกลาง เพื่อดำเนินการต่อไป

ต่อมาวันที่ 13 มิถุนายน ได้ประสานไปยังประเทศเพื่อนบ้าน โดยประสานไปยังตำรวจ และทหารในพื้นที่ประเทศกัมพูชา และได้มีการประสานงานทางลับ โดยปล่อยข่าวและออกข่าวต่างๆ ทำให้กลุ่มผู้ต้องหารับทราบข้อมูล ตนเองยืนยันพร้อมแสดงความบริสุทธิ์ใจในการติดตามเรือทั้ง 3 ลำกลับมา กระทั่งวันที่ 17 มิถุนายน สามารถจับกุมกลุ่มผู้ต้องหาไว้ได้ เมื่อจับกุมผู้ต้องหา และเรือกลับมาได้ น้ำมันของกลางเหลืออยู่ 18,000 ลิตร

หลังจากจับกุมมีแชทหลุดการพูดคุยระหว่าง เสี่ยโจ้ ปัตตานี กับ ตำรวจน้ำระดับผู้กำกับ ตนเองอยากขอความเป็นธรรมในส่วนนี้ เนื่องจากมีสื่อบางสำนักนำเสนอข่าวว่า ปีนั้น ปีนี้ ผู้การฯรับเงินจำนวนเท่านี้ ซึ่งเอกสารที่เผยแพร่ ไม่ใช่ปีที่ตัวเองรับราชการอยู่ในสังกัดกองบังคับการตำรวจน้ำ ซึ่งเอกสารเหล่านี้ เป็นเอกสารที่เคยยึดไว้ที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่ถูกนำมารวมเป็นเรื่องเดียวกัน

รวมถึงกรณีมีการแชร์โผยส่วยน้ำมันเถื่อนที่จ่ายให้กับตำรวจและหน่วยงานภาครัฐ ซึ่งหนึ่งในนั้นปรากฏข้อมูลว่า มีการจ่ายเงินให้กับผู้บังคับการตำรวจน้ำ 1 ล้านบาท นั้น จากการตรวจสอบพบเป็นเอกสารเก่าที่เคยมีการตรวจยึดไว้ตั้งแต่ปี 2555 ซึ่งยึดได้ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยขณะนั้นตนเองยังไม่ได้เข้ามาเป็นผู้บังคับการตำรวจน้ำ ส่วนโผยส่วยดังกล่าวมีการจ่ายเงินจริงหรือไม่นั้น ตนเองไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด เนื่องจากเป็นหน่วยงานที่ตนเองรับผิดชอบอยู่ขณะนี้ แต่ยินดีให้หน่วยงานอื่นเข้ามาตรวจสอบ ยืนยันอีกครั้งว่า ตนเองไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง เนื่องจากเพิ่งเข้ามารับตำแหน่ง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ผู้นำปานามาลั่นคลองปานามาไม่ใช่ของขวัญจากสหรัฐ
จีนไม่เห็นด้วยหลังไทยยืนยันไม่มีแผนส่งกลับอุยกูร์ในขณะนี้
"ดีเอสไอ" อนุมัติให้สืบสวนคดี "แตงโม" ปมมีการบิดเบือน บุคคลอื่น-จนท.รัฐเกี่ยวข้องหรือไม่
"พิพัฒน์" นำถก "คบต." ลงมตินายจ้างต้องยื่นบัญชีชื่อต้องการแรงงานต่างด้าว ให้เสร็จใน 13 ก.พ.68
ส่องรายได้ "ดิว อริสรา" หลัง "ไผ่ ลิกค์" เฉลยชื่อดาราดัง ปมยืมเงินปล่อยกู้ โซเชียลจับตา รอเจ้าตัวชี้แจง
ศาลให้ประกันตัว "หนุ่มลูกครึ่งอินเดีย" ขับรถชนไรเดอร์เสียชีวิต ตีวงเงิน 6 แสนบาท คุมเข้มใส่กำไล EM ภรรยาผู้ตาย ลั่นไม่ให้อภัย
ทบ.ขานรับนโยบายปราบยาเสพติด เพิ่มทหาร 6 กองกำลัง วัดเคพีไอ 10 กพ.-10 มิ.ย.
ซีพีเอฟ ซีพี-เมจิ ร่วมหนุนสระบุรีแซนด์บ๊อกซ์ "รวมพลังสร้างเมืองคาร์บอนต่ำแห่งแรกของประเทศไทย”
สละเรือแล้ว! "ผบ.อิสราเอล" ยื่น "ลาออก" เซ่นเหตุ 7 ต.ค. ไล่แทงกันในเทลอาวีฟเจ็บ 5
สุดปัง “นายกฯ” สวมกระโปรงผ้าปาเต๊ะ ร่วมประชุม WEF

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น